วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เทคนิคการฝึกหัดปลากัดเพื่อการแข่งขันหรือปลาเก่ง



สำหรับปลากัดที่ดีและพร้อมลงสนามจะต้องได้รับการฝึกให้กัดเก่ง ด้วยการฝึกตั้งแต่ในบ่อเลี้ยงแล้วทำการคัดเลือกปลาที่กัดเก่ง ออกมแล้วนำไปกัดกัดปลากัดในครอกอื่นๆ จนกระทั่งได้ปลาที่กัด เก่งตามความต้องการ เดิมทีนั้นก่อนที่จะนำปลากัดออกกัดใน
สนามแข่งต่างๆคนเก่าแก่มักจะมีคาถาสำหรับเป่าเสกกำกับการกัด ปลาในแต่ละครั้งซึ่งคาถาสำหรับการกัดปลาในแต่ละครั้งก็คือ นะกัดตัง กะขะชนะ ตังข้ามีกำลังดังพระยาปลาใน หาสมุทรสุกุโย เกล็ดแก้วมณีหุ้มห่อตัวข้าดังเกาะเพชรพุตากะเก เขี้ยวแก้วทั้งสี่ดุจตรีเพชรหนุมาน มะอะอุ ปลาใดมารอนราน วินาศ สันติ
สำหรับปลาที่จะเลี้ยงเพื่อการแข่งขันหรือการกัดนั้นพออายุครบ 6-8 เดือน ให้อาปลาขึ้นมาจากอ่างมาใส่ขวด เพื่อดูว่าปลาตัวไหนสมบูรณ์และลักษณะดีก็ให้คัดไว้ลงอ่างหมักที่ใช้ใบตองแห้งของกล้วยน้ำว้าหรือใบหูกวางแช่อ่างหมักทิ้งไว้ 10-15 วัน จึงนำเอาปลาขึ้นมา หากเป็นปลาที่ อ้วนเกินไปในระหว่างหมักก็ควรให้อดอาหารบ้าง โดยให้อาหารวันเว้นวัน เมื่อครบกำหนตามที่หมักไว้จะได้ปลาที่มีรูปร่างสวยเกล็ดแน่น ผิวเป็นมันเรียบ ต่อจากนั้นให้นำปลามาใส่ในขวดและเริ่มฝึกได้
ในการฝึกปลาจะมีชื่อเรียกว่า”ลูกไล่” ให้หาขวดหลน้ำกลั่นมาตัดปากออก เพื่อความสะดวกเวลาตักปลาแล้วให้เอาปลาตัวเมียเล็กๆขนาดอายุได้ 3-4 เดือนระมาณ 5-6 ตัว ใส่ลงในโหลพอเช้าประมาณ 6-7 โมง ก็เป็นปลาที่เลี้ยงให้พองใส่กันประมาณ 1 นาที เมื่อเห็นว่าดุดีแล้วก็ตักใส่โหลลูกใหม่ปลาก็จะไล่กัดลูกไล่ไปรอบๆ ให้มันไล่อยู่ประมาณ 30 นาที ก็ให้ตักปลาตัวผู้ขึ้น การทำเช่นนี้จะทำให้ปลาว่ายน้ำแข็งแรงไม่ตก
นอกจากการฝึกลูกไล่แล้วก็ต้องฝึก”พานตัวเมีย” โดยเอาปลากัดตัวเมียที่มีขนาดใหญ่หน่อยนึงลงหมักประมาณ 4-5 วันเพื่อให้ปลาดุแล้วนำมาใส่โหลจากนั้นให้เอาปลากัดตัวผู้ที่เลี้ยงใส่ลงไปทั้งปลาตัวผู้และปลาตัวเมียจะพองเข้าหากัน คล้ายจะกัดกันมีการวิ่งล่อไปมา การพานตัวเมียนี้จะใช้เวลาประมาณ 3-5นาทีก็พอ และเวลาพานตัวเมียนั้นต้องคอยดูตลอดเวลา อย่าให้ปลาตัวผู้กัดปลาตัวเมียได้ เพราะไม่เช่นนั้นปลาตัวเมียจะกลัว ไม่พองเข้าหาตัวผู้หรือลูกไล่ล่อกับปลาตัวผู้การพานก็จะไม่มีประโยชน์ การพานนี้ควรทำในช่างบ่าย พอพานเสร็จแล้วก็ให้ตักเอาออกมาใส่ขวดโหลพักไว้สักครู่นึ่งจึงให้อาหารพอถึง6 โมงเย็นก็เอาลงอ่างนอนซึ่งเป็นอ่างที่มีลักษณะเดียวกันกับอ่างรัดตั้งไว้ในที่สงบ ไม่ให้สะเทือนทำเช่นนี้ติดต่อกันประมาณ 10-12 วัน ปลาที่เลี้ยงไว้ก็จะสมบูรณ์กัดไม่แพ้คู่ต่อสู้ ซึ่งเซียนปลากัดมักกล่าวกันว่า”น้ำเลี้ยงดี” เช่นเดียวกับไก่ชน ปลากัดพวกนี้แม้ว่าจะมีความดุจริง แต่ถ้าถูกช้อนใส่ขวดใหม่หรือถูกแสงสว่างอย่างกะทันหันมันจะตื่นตกใจได้ง่ายๆ เหมือนกันดังนั้นก็ต้องมีการฝึกโดยหมั่นเปลี่ยนขวดบ่อยๆไม่ให้ซ้ำลักษณะแบบเดียวกันเป็นการฝึกให้ปลาเคยชินกับสถานที่ใหม่ๆ ไม่จำเจ เมื่อถึงวลานำไปกัดจริง มันก็จะไม่เกิดอาการตื่นเวที การฝึกแบบนี้เรียกว่า”ปลอบ” เทคนิคการนำปลากัดเข้าแข่งขัน ว่ากันว่าเวลากัดที่เหมาะแก่การนำเข้าแข่งขันหรือเพื่อการกัดนั้นจะต้องเป็นปลาที่มีอายประมาณ1 ปีเต็มเพราะปลากัดอายุ1เต็มจะเป็นปลาที่สมบูรณ์แข็งแรง และแกร่งพอที่จะเป็นปลานักสู้ได้อย่างเต็มความามารถ แต่ความเป็นปลากัดเก่งใช่ว่าจะอยู่ที่อายุหรือขนาดของปลาก็หาไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับการฝึกหัดปลาด้วย รมถึงการหมักปลากัดให้ไความแกร่ง เกล็ดหนาและปากคมแข็งแรง ซึ่งหลักการเหล่านี้บรรดาเซียนปลากัดแต่ละคนจะมีเทคนิคการทำให้ปลาเก่งแตกต่างกันดังจะเห็นได้จาก ป้ายหน้าร้านตามตลาดซันเดย์ว่าเป็นปลากัดเก่งจากฉะเชิงเทราบ้าง ราชบุรีบ้าง เพชรบุรีบ้าง นครปฐมบ้างหรือไม่ก็เป็นปลากัดเก่งจากภาคใต้
ส่วนการเทียบคู่ปลาเพื่อการกัดกันนั้น จะอาศัยการวางขวดที่มีปลาพร้อมจะลงสู่สนามกัดอยู่ในขวด โดยการวางขวดใกล้ๆกัดเพื่อจะได้สังเกตดูขนาดของตัวปลาว่ามีความเหมาะสมที่จะกัดกันหรือไม่ เมื่อต่างฝ่ายต่างก็ดูว่าปลาของตนมีขนาดใกล้เคียงกันหรือไม่บางครั้งก็อาศัยความพอใจและการตกลงกันของทั้งสองฝ่ายด้วย โดยไม่จำเป็นว่าปลาจะมีขนาดเท่าหรือใกล้เคียงกันเพียงอย่างเดียวหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเทียบปลากันแล้วตกลงที่จะปล่อยปลากัด พวกเขาทั้งสองฝ่ายก็จะเทน้ำออกจากขวดโหลที่ตนใส่ปลามาลงนาชนะที่เตรียมไว้เหลือน้ำในขวดโหลพียงเล็กน้อย จากนั้นจึงเทปลารวมกันเพื่อการแข่งขันกันต่อไป
อนึ่งในการที่บรรดาเซียนปลากัดทั้งหลายจะทำการคัดเลือกปลาของตนเองมาเพื่อการแข่งขันกันนี้ก็ต้องอาศัยมือน้ำเลี้ยงดังกล่าวโดยการคัดเลือกปลาที่มีลักษณะเด่นในการกัดเป็นปลากัดแม่น กัดรุนแรง กัดเฉพาะที่สำคัญเช่นบริเวณหูบริเวณกระเพาะ และบริเวณหางหรือตามครีบต่างๆของลำตัวปลา ว่ากันว่าปลากัดเก่งในแต่ละครอกจะมีความเก่งเหมือนกันแทบทุกตัว คือหากเป็นประหลาดีก็จะดีทั้งครอก ตรงกันข้ามหากเสียก็จะเสียทั้งครอกเช่นกัน “ถ้าขี้แพ้ก็แพ้เหมือนกันทั้งครอกชนะก็ชนะเหมือนกันทั้งครอก”
ข้อสำคัญเมื่อปลากัดที่กัดแข่งขันกันชนะแล้วจะไม่สามารถนำปลานั้นมากัดได้อีกเป็นครั้งที่สองเนื่องจากว่าปลาจะบอบช้ำเกินไป ควรนำไปเลี้ยงเป็นพ่อพันธุ์เท่านั้นและควรดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีในการพักฟื้นปลา เมื่อปลาพักฟื้นดีแล้วจึงนำไปผสมพันธุ์ต่อไป ฉะนั้นเมื่อปลากัดผ่านการฝึกฝนที่ดีแล้วย่อมได้เปรียบใน การกัดกันเพื่อการแข่งขันทุกครั้งแต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของปลาในแต่ละแหล่งด้วยว่ามีความทนทานหนังเหนียวหรือกัดเก่งดีหรือไม่ อย่างเช่นปลากัดที่ขึ้นชื่อคือปลากัดแดริ้ว ปลากัดเพชรบุรี และปลากัดมาเลเซียเป็นต้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น